ฟอนต์มาตรฐาน กับงานป้ายบริษัทสวยๆ

ฟอนต์มาตรฐานกับงานป้าย สวยๆ

ในปัจจุบัน ฟอนต์มาตรฐาน เป็น Font มาตรฐานสากลที่นำมาใช้ทำป้ายเป็นจำนวนมาก ด้วยรูปแบบฟ้อนที่หลากหลาย จึงเป็นเรื่องยากที่จะเป็นฟ้อนแบบที่เราถูกใจ แต่ปัจจุบันมีผู้ออกแบบลายฟอนต์ใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ฟอนต์ในการออกแบบป้ายงานแต่งงาน หรือเป็นป้ายแจ้งเตือนในสถานที่ต่างๆ ก็จะมีลักษณะหรือรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป การออกแบบจึงต้องใส่ใจในการเลือกฟอนต์ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ฟอนต์ไทยสวยๆ ที่ควรใช้ในการออกแบบ

สำหรับฟอนต์ ฟอนต์ไทยสวยๆ มีให้เลือกมากมาย ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ทำให้เราสามารถเลือกรูปแบบตัวอักษรที่เราชอบด้วยวิธีการง่ายๆ แต่บางครั้งฟอนต์ที่เราชอบกับไม่เหมาะกับงานที่เราจะสั่งทำ ดังนั้น นอกจากการเลือกฟ้อนต์ที่ชอบแล้วยังต้องมีการออกแบบกราฟิกดีไซน์จากผู้เชียวชาญ เพื่อทำการวางแบบและดูภาพรวมว่าสวยงามและเหมาะสมกับการใช้งาน โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำฟอนต์ สวยๆ ที่ลูกค้านิยมนำไปใช้งานมาเพื่อเป็นตัวเลือกที่ง่ายกว่า ซึ่งมีแบบไหนบ้าง เรามาดูกันเลยค่ะ

ฟอนต์โหลดฟอนต์ฟรีที่ควรหลีกเลี่ยงในการใช้งานกับป้ายบริษัท

เนื่องจาก ฟอนต์มีให้เลือกอยู่มากมาย ทั้งแบบฟรี และมีค่าใช้จ่าย รวมถึงฟอนต์ที่มากับตัวโปรแกรมออกแบบหรือระบบปฏิบัติการอยู่แล้ว ก็มีให้เลือกมากมายด้วย เช่นกัน ส่วนใหญ่เราจะใช้ฟอนต์ที่ต้องการสร้างความเป็นเอกลักษณ์พิเศษ จึงไม่สามารถใช้ ฟอนต์มาตรฐานราชการไทย ที่มาพร้อมเครื่องอยู่แล้ว จึงต้องหาฟ้อนที่ตรงตามที่เราต้องการและทำการดาวน์โหลดฟอนต์แบบ ฟรี จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุด แต่สำหรับหลายๆ คน ก็ไม่ทราบว่าจะต้องหาฟอนต์ที่ไหน หรือใช้ฟอนต์ชื่ออะไร เพียงแต่อยากสร้างงานป้ายที่นำมาใช้งานได้จริง ทำแล้วใช้ได้เหมาะสม แต่ฟ้อนแบบไหนที่เมื่อนำมาใช้แล้วอาจจะพบปัญหา ซึ่งเป็นฟอนต์ที่ควรหลี่กเลี่ยงในการทำป้าย เรามาลองมาดูกันว่าแบบไหนบ้างที่เราไม่ควรนำมาใช้

ฟอนต์ที่มีความบางมาก ๆ

งานป้ายบริษัท น่าจะเป็นป้ายที่คุณต้องการให้มีความชัดเจน มีความโดดเด่น และเป็นช่องทางในการสื่อสารได้มากที่สุด การที่เราเลือกใช้ต้วอักษรที่มีความบางจะทำให้ลดการมองเห็นในระยะไกล อาจจะมองไม่ชัดเจนทำให้เกิดปัญหาในการมองเห็นได้ ซึ่งฟ้อนต์ที่มีความบางเป็นฟอนต์ประเภทที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด

ฟอนต์ที่มีลวดลายมากเกินไป

ฟอนต์ที่มีลวดลาย จะมีความสวยงาม แต่แทนที่จะโฟกัสว่าป้ายของเราชื่อว่าอะไร หรือเป็นประเภทไหน กลายเป็นสื่อสารในทางที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง สำหรับการออกแบบป้ายโดยใช้ฟอนต์ที่มีลวดลายมากเกินไปจะทำให้ การสื่อสารของป้ายผิดเพี้ยนไปแล้วจะทำให้คนที่พบเห็นในครั้งแรกไม่ได้มีความประทับใจหรือไม่เข้าใจป้ายของเราเท่าที่ควร

ฟอนต์ที่บีบจนอ่านยาก

อีกหนึ่งการออกป้ายที่ควรระวังในการเลือกฟอนต์ก็คือแบบที่มีลักษณะการบีบตัวใกล้ชิดกันเกินไปจนอ่านยากทำให้ข้อความไม่เป็นที่น่าสนใจและไม่น่าอ่าน ดูแน่นจนอึดอัด และไม่โปร่ง ทำให้กลายเป็นป้ายที่ไม่น่าสนใจ และส่งผลให้การอ่านต้องใช้การเพ่งดูมากกว่าปกติ นั้นเอง

ฟอนต์ลายมือหรือพิมพ์ดีด

ยิ่งอ่านยากหรือต้องใช้การเพ่งดูมากเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลเสียกับการออกแบบป้ายบริษัทที่ต้องการความชัดเจนมากเท่านั้นแน่นอนว่า ฟอนต์สวยๆฟรี เหล่านี้ดูน่าสนใจแต่หากจะให้บ่งถึงความเป็นบริษัทคงจะไม่สามารถใช้กับงานป้ายได้ นอกจากจะเป็นคำสั้น ๆ ยังพอได้บ้าง

ฟอนต์ที่มีความห่างมากเกินไป

เหตุผลเดียวกันกับการใช้งานฟอนต์ที่ติดกันมากเกินเพราะคุณจะไม่สามารถเห็นความแตกต่างระหว่าง Space กับความห่างของตัวอักษร ที่สำคัญความห่างที่มากเกินพอดีจะทำให้ป้ายดูไม่สวยอีกด้วย โดยเฉพาะชื่อบริษัท ที่มีความยาวมาก ๆ

เลือกใช้ฟอนต์ให้ถูกต้องตามการใช้งาน

แน่นอนว่าฟอนต์หรือตัวหนังสือถูกออกแบบมาให้มีความแตกต่างกันไม่มากก็น้อย และความแตกต่างเพียงน้อยนิดนี่เองที่จะช่วยสร้างความเป็นเอกลักษณ์สำหรับการใช้งานต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะงานป้ายที่แน่นอนว่าแต่ละฟอนต์ที่จะต้องนำมาใช้งานต้องดูโดดเด่นและสามารถอ่านได้อย่างชัดเจนภายในครั้งแรกที่เห็นแต่ ด้วยมาตรฐานตรงนี้จึงทำให้ความเป็นเอกเทศถูกตัดไป ฟอนต์มาตรฐานจึงออกมามีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก

ตรงนี้เองที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนหลงทางเพราะต้องการความยูนิคหรือโดดเด่นที่ไม่เหมือนใครมากเกินไปจนลืมความสำคัญในการใช้งานหรือออกแบบป้ายว่าควรจะทำให้อ่านได้ง่ายที่สุดและมีข้อความสื่อสารที่ชัดเจนที่สุดและอ่านง่ายโดยไม่ต้องเพ่งมองนาน เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าต้องการความสวยและแปลกใหม่สำหรับป้ายบริษัทมากขนาดไหนก็ตามก็ไม่ควรลืมการใช้งานได้เป็นส่วนสำคัญในการทำป้าย อย่าลืมว่าต้องชัดเจนและใช้งานได้จริงมากที่สุดตามคำแนะนำด้านบน หรือจะให้ทางมืออาชีพออกแบบให้ก็จะช่วยประหยัดเวลาในการคิดเองได้เป็นอย่างมาก

สรุป

การเลือกใช้ฟอนต์สำหรับการผลิตงานป้ายต่างๆ ควรพิจารณาถึงการใช้งานเป็นพื้นฐานสำคัญ การออกแบบควรเลือกตัวอักษรที่เป็นรูปแบบมาตรฐาน อ่านง่าย เมื่อมองเห็นแล้วเข้าใจได้ทันที จะทำให้ตรงตามความต้องการมากที่สุด

นอกจากนี้การนำฟอนต์ไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ จะต้องระวังเรื่องลิขสิทธิ์ที่ต้องขออนุญาตหรือชำระค่าลิขสัทธิ์สำหรับฟ้อนนั้นๆ จากผู้ที่สร้างฟอนท์ก่อนจึงจะนำมาใช้งานได้ แต่หากไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายอาจจะใช้ฟ้อนที่ไม่มีลิขสิทธิ์ เป็นฟ้อนที่เปิดให้ใช้โดยอิสระโดยไม่มีค่าใช้จ่ายน่าจะดีที่สุด